![]() |
ธรรมชาติสนทนา ภาพวาดดินสอ โดย ครองศักดิ์ จุฬามรกต
|
คำนิยม ธรรมชาติมิได้เป็นแค่มวลวัตถุ แหล่งน้ำ หรือทรัพยากรที่มีขึ้นเพื่อสนองความต้องการของเรา หากเป็นแหล่งกำเนิดชีวิตที่บำรุงเลี้ยงสรรพสิ่งรวมทั้งมนุษย์ทุกคน ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นเราไม่ว่ารูปธรรมหรือนามธรรมล้วนมาจากธรรมชาติหรือพึ่งพิงอิงอาศัยธรรมชาติทั้งสิ้น ปราศจากธรรมชาติ เราก็มิอาจดำรงอยู่ได้เลย ในทางตรงข้ามแม้ปราศจากมนุษย์ ธรรมชาติก็หาเดือดร้อนไม่ ธรรมชาติไม่เพียงให้ปัจจัยสี่แก่เรา หากยังเกื้อกูลต่อจิตใจของเราด้วย เมื่อใดที่ใจรุ่มร้อน ธรรมชาติสามารถให้ความสงบเย็นแก่เรา เมื่อใดที่ใจแห้งผาก ธรรมชาติจะให้ความฉ่ำเย็นแก่เรา มิใช่แต่ความสงบสงัดเท่านั้นที่ใจเราสามารถสัมผัสได้จากธรรมชาติ แม้แต่ “ธรรม” เราก็สามารถซึมซับได้จากธรรมชาติเช่นกัน เมื่อครั้งที่ท่านอาจารย์พุทธทาสยังมีชีวิตอยู่ ท่านมักแนะนำให้ผู้มาเยือนสวนโมกข์ เดินเข้าไปในป่า เพื่อฟังเสียงก้อนหินพูด หรือฟังธรรมจากต้นไม้ เพราะธรรมชาติสามารถสอนธรรมที่ลึกซึ้งแก่เราได้ แม้กระทั่งพระไตรลักษณ์ เราก็สามารถเข้าถึงได้หากรู้จักสดับฟังธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเราจะได้ยินธรรมชาติสอนธรรมก็ต่อเมื่อทำใจสงบ เปิดใจให้ว่าง วางความคิดทั้งปวงลง แล้วธรรมก็จะรินหลั่งจากธรรมชาติสู่ใจเรา แต่ถึงแม้ใจเราจะยังไม่นิ่งพอที่จะรองรับธรรม อย่างน้อยก็สัมผัสได้ถึงความสงบสงัด เกิดความสงบเย็นอันเป็นสุขที่หาได้ยาก ผู้คนทุกวันนี้ในส่วนลึกของจิตใจล้วนโหยหาความสงบเย็น จึงพากันเข้าหาธรรมชาติ แต่ถึงจะอยู่ในป่าหรือบนยอดเขา แต่หากใจไม่เปิด ไม่คิดจะสดับเสียงที่ลึกซึ้งจากธรรมชาติ หรือไม่เชื่อว่าธรรมชาติสามารถสนทนากับเราได้ ก็ยากที่จะพบกับความสงบเย็นดังที่ต้องการได้ ธรรมชาตินั้นพร้อมที่จะสนทนากับเราตลอดเวลา อยู่ที่ว่าเราพร้อมจะสนทนากับธรรมชาติหรือไม่ เมื่อใดที่เราพร้อม ความอัศจรรย์ก็พลันบังเกิด ไม่เพียงรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ หากยังเข้าถึงความจริงและความงามอันลึกซึ้ง ซึ่งสามารถหล่อเลี้ยงจิตใจให้เป็นสุขอย่างยิ่ง คุณครองศักดิ์ จุฬามรกต เป็นผู้ที่มีใจรักธรรมชาติ และเชื่อว่าธรรมชาตินั้นมีความลึกซึ้ง ยิ่งใหญ่ และเปี่ยมเมตตา จึงน้อมใจสดับฟังเสียงของธรรมชาติอยู่ทุกเมื่อ และหาโอกาสสนทนากับป่าเขาลำเนาไพรอยู่เนือง ๆ เป็นการสนทนาด้วยใจในความเงียบ ผลของการสนทนาคือภาพอันงดงามที่ประมวลอยู่ในหนังสือเล่มนี้ เส้นสายแต่ละเส้นจะว่าไปแล้วก็คือคำบอกเล่าของธรรมชาติ ที่ส่งผ่านใจมายังมือและถ่ายทอดลงบนกระดาษ หากผู้ชมน้อมใจให้สงบ เปิดใจให้ว่าง ก็ย่อมจะได้ยินเสียงของธรรมชาติผ่านภาพดังกล่าว และอดไม่ได้ที่จะค้อมคารวะธรรมชาติ และสำนึกในบุญคุณของธรรมชาติไปพร้อม ๆ กัน ใครก็ตามที่ได้มาเห็นภาพเหล่านี้ จะรู้สึกได้ถึงความสงบเย็นที่บังเกิดในจิตใจ ที่เคยว้าวุ่นก็จะค่อย ๆ นิ่งลง ที่รีบร้อนก็จะกลายเป็นเนิบช้า ราวกับว่าได้อยู่ท่ามกลางพงไพรหรือนั่งริมธารใสจริง ๆ ภาพเหล่านี้สามารถพาเราออกจากโลกที่อึกทึกจอแจและเร่งรีบได้เลยทีเดียวแม้ชั่วขณะก็ตาม ยิ่งได้นั่งนิ่ง ๆ อ่านบทกวีประกอบภาพด้วยแล้ว ก็จะสัมผัสได้ถึงมิติอันลึกซึ้งที่เลือนหายไปจากชีวิตสมัยใหม่ไปนานแล้ว บางคนเรียกมิติดังกล่าวว่ามิติทางจิตวิญญาณ หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เราสัมผัสถึง “ความเป็นแม่” ในอีกมิติหนึ่ง กล่าวคือความโอบอ้อมอารี มีเมตตา ให้ความร่มเย็นโดยไม่เจาะจงเฉพาะตัวบุคคล แต่ปกแผ่ให้แก่มนุษย์ทุกคน โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นสภาวะอันสากลที่สัมผัสได้ในทุกขณะและทุกเมื่อ จึงนับว่าเหมาะสมอย่างยิ่งที่หนังสือเล่มนี้ได้รับการตีพิมพ์เพื่อสนับสนุนโครงการพิพิธภัณฑ์แม่ ซึ่งคุณครองศักดิ์เป็นผู้ริเริ่มและเป็นกำลังสำคัญอยู่ในขณะนี้ เชื่อว่าผู้ที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้หรือได้ดูภาพจริงในงานแสดงภาพที่หอศิลปวัฒนธรรม จะเกิดแรงบันดาลใจใคร่สนทนากับธรรมชาติ หรือเปิดใจรับฟังคำบอกเล่าของธรรมชาติมากขึ้น แต่นอกจากฟังเสียงกล่อมกระซิบของป่าเขาลำเนาไพรอันร่มครึ้มเขียวขจีแล้ว ควรที่จะเปิดใจสดับฟังเสียงร้องของธรรมชาติที่กำลังถูกคุกคามทำร้ายด้วย เพราะทุกวันนี้ป่าหลายแห่งกำลังร้องไห้ แผ่นดินกำลังล้มป่วย แม่น้ำกำลังจะตาย เป็นเพราะผู้คนจำนวนมากมืดบอดและหูหนวกต่อความทุกข์ของธรรมชาติ จึงปล่อยให้ธรรมชาติถูกทำลายอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่สายที่เราจะมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับธรรมชาติ และช่วยกันเยียวยาฟื้นฟูธรรมชาติเยี่ยงลูกที่ไม่นิ่งดูดายเมื่อเห็นแม่ล้มป่วยและกำลังจะตาย คงมีแต่ลูกอกตัญญูเท่านั้นที่อยู่อย่างสุขสบายและปล่อยให้แม่ทุกข์ทรมานขณะที่กำลังตายลงอย่างช้า ๆ พระไพศาล วิสาโล |
รวบรวมงานเขียนและบทความของพระไพศาล
วิสาโล www.visalo.org korobiznet
เอื้อเฟื้อพื้นที่
|