![]() |
รำลึกถึงพระครูสุภาจารวัฒน์
|
ประมาณปี ๒๕๓๓ พระสงฆ์กลุ่มหนึ่งได้รวมกันในนาม “กลุ่มเสขิยธรรม” ส่วนใหญ่เป็นพระที่ทำงานพัฒนาหมู่บ้านโดยเฉพาะในภาคอีสาน หลายท่านมีประสบการณ์มายาวนาน จำนวนไม่น้อยเป็นพระรุ่นใหม่ที่สนใจนำพุทธศาสนามาเกื้อกูลชุมชน พระครูสุภาจารวัฒน์ เป็นพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มเสขิยธรรมมาตั้งแต่ต้น แม้ท่านจะไม่เป็นที่รู้จักเท่าหลวงพ่อนาน สุทโธสีโล ซึ่งเป็นประธานกลุ่ม แต่ในหมู่พระสงฆ์และชาวบ้านที่อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ท่านเป็นพระที่ได้รับการเคารพอย่างมาก ท่านพระครูสุภาจารวัฒน์ หรือหลวงพ่อสีหา เป็นพระที่พูดน้อย เสียงเบา แต่มีจิตใจหนักแน่น และมีความคิดที่แจ่มชัด ที่สำคัญก็คือ ท่านมีความเสียสละ ห่วงใยทุกข์สุขของชาวบ้าน และเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย เมื่อเห็นว่าชาวบ้านประสบความเดือดร้อน ท่านก็ไม่นิ่งดูดาย แทนที่จะเก็บตัวอยู่ในวัด และประกอบพิธีกรรม อย่างที่มักเห็นตามวัดต่าง ๆ ท่านกลับออกไปนำและชักชวนชาวบ้านทำกิจกรรมต่าง ๆที่ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเขา เริ่มจากการส่งเสริมสมุนไพร โดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง ขยายไปสู่การทำเกษตรผสมผสาน การทำเกษตกรรมอินทรีย์ จนมีชาวบ้านจำนวนมากหันมาปลูกข้าวปลอดสารเคมี เป็นเพราะท่านเห็นความสำคัญของการรวมกลุ่มชาวบ้านเพื่อช่วยเหลือกันเอง กุดชุมจึงมีกลุ่มชาวบ้านเกิดขึ้นมากมาย ผลงานที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือ การทำโรงสีข้าวปลอดสารเคมีที่เป็นของชาวบ้านเอง เพื่อรับซื้อผลิตผลของชาวบ้านในราคาที่เป็นธรรม โดยตัดพ่อค้าคนกลางออกไป ช่วยให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้มากขึ้น โครงการเหล่านี้แม้ในช่วงแรก ๆ จะไม่ค่อยได้รับความสนับสนุนจากทางราชการ แต่ในเวลาต่อมาก็เป็นที่ยอมรับของหน่วยราชการ โครงการเหล่านี้มีชาวบ้านเป็นตัวหลัก แต่เบื้องหลังก็คือการสนับสนุนของหลวงพ่อสีหา แต่มีกิจกรรมหลายอย่างท่านเป็นผู้นำอยู่ข้างหน้าเลย อาทิ เครือข่ายพระสงฆ์กุดชุม ซึ่งมีบทบาทที่หลากหลายมาก นอกจากการให้ความรู้ด้านสมุนไพรแก่ชาวบ้านแล้ว ยังเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์ป่าชุมชน รวมทั้งการส่งเสริมเศรษฐกิจแบบพอเพียง โดยเน้นการพึ่งตนเองในเรื่องสำคัญ ๆ กิจกรรมหนึ่งของเครือข่ายพระสงฆ์และชาวบ้านกุดชม ซึ่งก้าวหน้ามาก ก็คือ การทำเงินตราชุมชน เรียกว่า “เบี้ยกุดชุม” ซึ่งริเริ่มขึ้นในปี ๒๕๔๑ หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วทั้งประเทศ วัตถุประสงค์ก็เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน โดยให้โภคทรัพย์ของชุมชนยังคงไหลเวียนอยู่ในชุมชน ไม่ถูกดูดออกไปภายนอก น่าเสียดายที่โครงการนี้ทำได้ไม่นาน ทางราชการก็สั่งให้ยุติ เพราะยังไม่เข้าใจแนวคิดดังกล่าว หลวงพ่อสีหา เป็นพระผู้ใหญ่ ที่ไม่ถือตัว อีกทั้งยังใจกว้าง รับฟังความเห็นของพระหนุ่มเณรน้อย ข้าพเจ้ามีโอกาสสนทนาและร่วมงานกับท่านอยู่หลายครั้ง ตั้งแต่ก่อนจะมีกลุ่มเสขิยธรรมด้วยซ้ำ ดังได้เคยไปร่วมงานทอดผ้าป่าพันธุ์ไม้ที่วัดของท่านเมื่อปี ๒๕๓๒ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการพึ่งตนเองด้านสุขภาพของชาวบ้านในอำเภอกุดชุม งานนั้นเป็นงานใหญ่มาก มีผู้คนมาร่วมจากทุกสารทิศ โดยเฉพาะแวดวงพัฒนาชุมชน นับเป็นงาน “เปิดตัว” ที่ทำให้ผู้คนในวงกว้างรู้จักท่านและเครือข่ายพระสงฆ์และชาวบ้านที่ท่านเป็นผู้นำ หลังจากที่กลุ่มเสขิยธรรมลดบทบาทลง ในช่วงสิบกว่าปีหลัง ข้าพเจ้าไม่มีโอกาสไปเยี่ยมท่านที่วัดเหมือนเคย ได้แต่สดับฟังข่าวจากท่านเป็นระยะ ๆ จากมิตรสหายที่ทำงานช่วยเหลือชาวบ้านที่นั่น แต่ไม่มีข่าวใดที่ร้ายเท่ากับข่าวการมรณภาพของท่าน แม้จะมั่นใจว่าหลวงพ่อสีหาบำเพ็ญสมณธรรมมามากพอที่จะเผชิญความตายได้อย่างสงบ แต่สำหรับลูกศิษย์ลูกหาทั้งพระและชาวบ้าน นี้เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่ยากจะหาอะไรมาทดแทนได้ ข้าพเจ้าได้แต่หวังว่าลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายจะช่วยกันสืบสานปณิธานของหลวงพ่อให้ยั่งยืนสืบไป |
รวบรวมงานเขียนและบทความของพระไพศาล
วิสาโล www.visalo.org korobiznet
เอื้อเฟื้อพื้นที่
|