กราบนมัสการหลวงพ่อค่ะ ลูกเป็นลูกคนเดียว ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ลูกกลับไปหา และให้เงินพ่อกับแม่ทุกเดือน พร้อมทั้งสร้างบ้านและมีหนี้อยู่หนึ่งก้อนที่เกิดจากบ้านใหม่
พ่อกับแม่มีลูกตอนเมื่อท่านทั้งสองแก่ตัวแล้วค่ะ ตอนนี้พ่อ 83 แม่ 79 แม่เป็นคนขี้โรค และป่วยกระเสาะกระแสะตั้งแต่แต่งงานกับพ่อจนถึงเดี๋ยวนี้ เป็นทั้งโรคประสาทที่เกิดจากความเครียด กระดูกพรุน ความดันสูง และพ่อเป็นคนดีมาก ดูแลและไม่เคยทอดทิ้งแม่ เป็นรักแท้ที่หาได้ยากยิ่ง
ปีที่แล้วเมื่อต้นปีแม่หมดสติ ไปโรงพยาบาลและพบว่าเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ และได้ยามารักษาตัวที่บ้านค่ะ และกลางปีแม่ขาหักเดินไมได้ค่ะ ลูกก็ได้แต่ทำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น
และปีนี้ไม่กี่วันที่ผ่านมา แม่นอนอยู่และกระดูกสันหลังลั่น ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ สันนิษฐานว่ากระดูกสันหลังร้าว อันเนื่องมาจากการไม่ได้เคลื่อนไหวตอนขาหัก ได้แต่นั่งรถเข็น และกระดูกพรุนเพราะทานยามาเยอะตลอดชีวิตของแม่นั่นเอง
ลูกไม่รู้จะทำยังไง อยากเอาแม่ไปรักษา แต่แม่เจ็บปวดไปทั้งตัว ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก ก็เลยตัดสินใจไม่ทำอะไรต่อ เพราะสงสารแม่ ให้แม่อยู่กับบ้าน และจ้างน้องที่บ้านช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อมเป็นเวลา และเช็ดตัวให้แต่ละวัน และพ่อเป็นคนทำกับข้าว ป้อนข้าวแม่
ลูกทุกข์ใจ เพราะต้องกลับมาทำงาน ไม่ได้อยู่ดูแล ค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉพาะค่าผ้าอ้อม ค่าคนดูแล ฯลฯ และมีหนี้สิน ไม่สามารถลาออกจากงานได้ ใจหนึ่งลูกอยากสละทุกสิ่งอย่าง อยากลาออกจากงานและได้เงินมาก้อนหนึ่ง ซึ่งพอสำหรับใช้หนี้และใช้ได้อีกประมาณ 1 ปีเท่านั้น
ช่วงเวลาที่ลูกได้กลับไปดูแลนั้น แม่ก็ดื้อ เอาแต่ใจ และพ่อก็เป็นคนที่คอยตามใจแม่ เลยต้องกระทบกระทั่งเสียงดัง ลูกเองก็มาเสียใจทีหลังทุกครั้ง และลูกเองก็เครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากๆ สงสารแม่ที่เจ็บปวด สงสารพ่อที่ดูแล สงสารตัวเองที่ไม่มีปัญญาทำดีได้กว่านี้ โทษตัวเอง โกรธเกลียดชีวิตของตนเองที่ลำบากมาตลอด ทำงานยังไงก็ไม่มีเงินเก็บ มีแต่ภาระ ไม่มีบ้านให้พาพ่อกับแม่มาอยู่ด้วย
โกรธที่แม่ป่วยมาตลอดแล้วทำพ่อและตัวลูกเองทุกข์ใจและลำบากกันมาตลอด กังวลกับค่าใช้จ่ายสารพัด ซึ่งยอมรับค่ะว่าไม่พอใช้ รายได้มาจากลูกคนเดียวเท่านั้น แต่ลูกก็จะต้องอดทน แม้อดๆอยากๆก็ยอม สารพัดอารมณ์เลยค่ะตอนนี้
กลัวคนดูแลทนกับสิ่งที่แม่เป็นไม่ได้ กลัวพ่อมาเจ็บป่วยอีกคน ซึ่งตอนนี้พ่อก็ไม่แข็งแรง ทั้งเป็นหัวใจ เบาหวาน ความดัน ลูกควรจะทำอย่างไร กลับไปบ้านก็ไม่มีงานทำ อายุเยอะแล้วค่ะตอนนี้ 39 จะ 40 จะกลับไปเป็นเกษตรกรก็ไม่เคยทำมาก่อน
หลวงพ่อคะ ลูกควรจะทำอย่างไรกับชีวิตดี มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืดมน ลูกขอทางสว่างให้ลูกด้วยเจ้าค่ะ |
ทางที่คุณเล่ามานั้น ไม่ว่าทางไหนก็มิใช่ทางที่มืดมนเลย เป็นทางที่มีแสงสว่างทั้งนั้น เป็นแต่มันสว่างไม่พอในความเห็นของคุณ ทุกทางที่อยู่ในใจคุณนั้น มีประโยชน์และ เป็นทางออกสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันของครอบครัวคุณได้ทั้งนั้น คือมีข้อดี แต่ก็มีข้อเสียในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่ทางที่สมบูรณ์พร้อม แต่คุณควรยอมรับความจริงว่า
ทางที่สมบูรณ์พร้อม ดีไปหมดไม่มีเสียเลยนั้น ตอนนี้ไม่มีอยู่ หรืออย่างน้อยก็ยังหาไม่เจอ ดังนั้นจึงมีทางเลือกแค่ ๒ ทางตอนนี้ ไม่ว่าคุณเลือกทางไหน ก็ล้วนแต่ส่งผลดีต่อ คุณพ่อคุณแม่ของคุณทั้งนั้น ไม่ว่าอยู่ต่างจังหวัดเพื่อหาเงินส่งไปให้ที่บ้าน หรือ กลับไปบ้านเพื่อช่วยดูแลพ่อแม่ด้วยตนเอง
ข้อสำคัญอยู่ที่การวางใจของคุณ นั่นคือ ยอมรับข้อเสียหรือความไม่สมบูรณ์ของทุกหนทางที่คุณเลือก ถ้าคุณอยู่ต่างจังหวัดหาเงินส่งไปให้ที่บ้าน ก็ต้องทำใจที่ไม่ได้ช่วยดูแลคุณแม่และคุณพ่อด้วยตัวเอง แต่ถ้าคุณกลับไปบ้านก็ต้องทำใจว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะติดขัดเรื่องเงิน (เว้นเสียแต่ว่าคุณแม่จากไปก่อน)
หากคุณไม่ได้ช่วยดูแลบุพการีด้วยตัวคุณเอง ก็อย่ารู้สึกผิดเพราะคุณทำเต็มที่แล้วด้วยการทำงานส่งเงินไปให้ อย่างไรก็ตามแม้คุณจะอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็สามารถไปดูแลคุณแม่ได้ในช่วงวันหยุด ถือว่าเป็นการช่วยผ่อนเบาภาระของคุณพ่อ ให้ท่าน(และคนดูแลที่จ้างมา)ได้พักบ้าง เพราะการพักผ่อนก็เป็นสิ่งสำคัญ
ส่วนอารมณ์ของคุณแม่คุณนั้น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรทำใจยอมรับให้ได้ พยายามเข้าใจท่าน เพราะหากคุณตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับท่านก็อาจทำอย่างนั้นเหมือนกัน ระหว่างที่คุณมาดูแลท่านชั่วคราว ก็ควรทำใจอดกลั้นต่ออารมณ์ของคุณแม่ การที่คุณทำใจสงบ อดทน จะช่วยท่านได้ไม่น้อย การดูแลจิตใจนั้นสำคัญไม่น้อยกว่าการดูแลร่างกาย และคุณสามารถดูแลท่านได้ด้วยการดูแลใจตนเอง
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะย้อนกลับไปอดีตแล้วตำหนิตัวเองว่า ทำไมไม่ทำอย่างนั้น หรือ ฉันน่าจะทำอย่างนี้ อดีตผ่านไปแล้ว จะเอามาทำร้ายตัวเองทำไม และจะว่าไป ที่ผ่านมาคุณก็ทำเต็มที่แล้ว แต่คนเราทุกคนมีข้อจำกัดทั้งนั้น ไม่สามารถทำสิ่งที่สมบูรณ์พร้อมได้
สำหรับคุณพ่อของคุณนั้น หากคุณไม่สามารถไปช่วยแบ่งเบาภาระของท่านได้เพราะติดงาน ก็ช่วยท่านได้ด้วยการโทรศัพท์ใปให้กำลังใจท่าน เล่าเรื่องดี ๆ ของคุณให้ท่านฟัง ท่านจะมีความสุขหากได้ฟังเรื่องราวเหล่านั้นจากคุณ
อาตมาขอให้กำลังใจคุณ และเชื่อว่าไม่ว่าคุณตัดสินใจทางใด ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณและทุกคนในครอบครัว |